วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการนั่งสมาธิ

การทดลองนั่งสมาธิ ผมได้เริ่มนั่งมา สี ถึง ห้า ครั้งแล้วในเดือนนี้ นับว่า เป็นการพยายามที่จะนั่งให้ เกิน หนึ่งชั่วโมงให้ได้ และในวันนี้เองที่ ผมทำได้ จับเวลาแล้ว นั่งได้ 1:08:17 ชั่วโมง หรือ หนึ่งชั่วโมงแปดนาที  ผมใช้เวลานั่งช่วงหลังเทียงคืนซึ่งเป็นเวลาดึกสงัดเงียบและไม่มีเสียงรอบๆ บ้านรบกวน และ ผมเริ่มพยายามนั่งให้ได้ ยีสิบนาที บ้าง สามสิบนาทีบ้าง และในวันนี้ผม เอาชนะ ความขี้เกียจได้

การนั่งสมาธิของผมนั้น ผมไม่มีพื้นฐานการนั่งเลยได้แต่ ฟังเขามาบ้างฟังพระเทส บ้างและวันนี้ ผมคิดว่าผมฝึการนั่งแบบ สมาถะ เพราะผม นั่งสมาธิและภาวนาพุทโธ กำหนดลมหายใจเขาพุท กำหนดลมหายใจออกโท ตลอด ทั้งช่วงเวลาของการนั่งสมาธิ ผมตามดูลมหายใจเข้าออก ผมพยายามกำหนดจิตให้อยู่ กับลมหายใจเขาออก และได้สั่งเกตเห็นสิ่งต่างๆ ระหว่างนั่งคือ  ลมหายใจเข้าออก นั้น บางเวลา ช้าบ้าง บางเวลาเร็วบ้าง บางเวลา ก็ละเอียด แต่ละช่วงเวลาลมหายใจเข้าและออกนั้น มีจังหวะ ไม่เหมือนกัน ผมไม่ได้มีการหายใจเข้าออกแบบคงที่ แต่ เป็นไปตามสภาวะ กำหลดรู้คือ ว่า ช่วงเวลาที่นั่ง ยี่สิบนาที่แรกนั้น ผมกำหนดลมหายใจ เข้าออกได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ และลมหายใจก็ค่อยๆ ละเอียดขึ้นจาก หายใจเข้าออกแรงเป็นจังหวะ ไปจน หายใจเข้าออกเบาๆ เป็นจังหวะช่วง ยี่สิบนาทีแรก ผมค่อนข้างจะกำหนดจิตอยู่กับลมหายใจได้ดี ไม่ปล่อยให้จิตฟุ้งออกไปคิดเรื่องอื่นนอนจากให้จิตตามดูที่ลมหมาใจเข้าออกเท่านั้น แต่หลังจากยี่สิบหลังนั้น ผมต้องพยายามฝืนอาจจะเป็นเพราะว่า ผมพยายามจะนั่งให้ได้นานๆ กว่านี้คือต้องการนั่งให้นานๆ ที่สุดเท่าที่จะนานได้ ผมพบว่าลมหายใจผมแรงหนักเบาเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอและ หัวใจเริ่มเต่นแรงขึ้น   สมองเริ่มฟุ้งไปคิดเรื่องอื่นเช่นเรื่อง ในอดีตที่ผ่านมาบ้าง สมองคิดถึงพี่สาวบ้าง คิดถึง สิ่งที่อยากทำในวันพรุ้งนี้บ้าง และ ผมก็ได้พยายาม ให้สมองไม่ไปคิดเรื่องอื่นๆ น่อนจากจะ ให้สมองมาจับที่จังหวะการหายใจ ช่วง สีสิบห้านาทีหลังนี้ ผมต้องพยายามนึกถึง พ่อบ้างและพระอาจารย์ ที่สอนกรรมฐานบ้าง ให้บารมีท่านช่วงให้ผม ไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากลมหายใจเขาออกเท่านั้น และ ผม ก็ต้องนึกถึงถี่ขึ้นๆ  ระยะนี้ ผม รู้สึกว่า ลมหายใจผมเข้าออกไม่เป็นจังหวะ อาจจะ เพราะว่า นั่งนานตัวเกร็ง และอาจจะ ฝืนนั่ง เพื่อที่จะให้นั่งได้เกิน หนึ่งชั่วโมงให้ได้ เอาเป็นว่า สมองเดียวตามดูลมหายใจ พักนึง แล้ว ก็สมองไปคิดไปนึกเรื่องอื่นๆ พักนึง สลับกันไป ระหว่างนี้เอง ผมได้สตินึกขึ้นระหว่างนั่งสาธิ ก็พยายามแผ่เมตตาไปให้สรรพสิ่ง ไม่ว่า เจ้าที่เจ้าทาง เทพเทวดา สัมพเวสี เปรต อสุรกาย ตนไม้ สัตว์ จิ้งจก และ ผมก็นั่งต่อไป ได้อีก สิบกว่านาที่โดยที่ฝืนนั่่งแต่ ก็ยังตามดูลมหายใจเข้าออก อยู่ตลอดเวลา ช่วงจังหวะนี้ เริ่มปวดหัว เพราะอะไรไม่รู้ อาจจะ เพราะ ตัวเกรง และพยายามจะไม่ลืมตา  แต่ผมก็ขมใจให้นั่ง จนเกิน หนึ่งชั่วโมงไปได้จนได้

วันนี้ บันทึกแค่นี้ก่อน  เดียววันหน้านั่งสมาธใหม่แล้วจะบันทึกใหม่อีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น